ปภ. แนะเทคนิคการพาสัตว์เลี้ยงโดยสารในรถอย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะเทคนิคการพาสัตว์เลี้ยงโดยสารในรถอย่างปลอดภัย ควรมีผู้ดูแลใกล้ชิดหรือใส่กรง กระเป๋า วางไว้ตำแหน่งด้านหลังเบาะคนขับ พร้อมบล็อกสายจูงหรือเข็มขัดนิรภัยสำหรับสัตว์ยึดให้เรียบร้อย ไม่เล่นหรือหยอกล้อสัตว์เลี้ยงในขณะขับ รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมในรถให้สัตว์เลี้ยงเกิดคุ้นเคย จะช่วยลดความตระหนกตกใจ เพื่อป้องกันการรบกวนสมาธิของคนขับและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การนำสัตว์เลี้ยงโดยสารรถ เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อาจรบกวนสมาธิในการขับรถ นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนแล้ว หากประสบอุบัติเหตุจะก่อให้เกิดอันตรายได้ทั้งผู้ที่อยู่ภายในรถและสัตว์เลี้ยง เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีนำสัตว์เลี้ยงโดยสารรถอย่างปลอดภัย ดังนี้ การนำสัตว์เลี้ยงโดยสารในรถควรมีผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิดหรือเตรียมอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง อาทิ กรง กระเป๋า บล็อกสายจูงหรือเข็มขัดนิรภัยสำหรับสัตว์ เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้พุ่งกระแทกหรือกระโจนใส่ผู้ขับขี่ พร้อมทั้งจัดพื้นที่ในรถให้เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยวางไว้ตำแหน่งด้านหลังเบาะด้านหลังคนขับ เพื่อเป็นการไม่รบกวนสมาธิของคนขับ หากวางกระบะท้ายควรใช้เชือกหรือตาข่ายคลุมกรง พร้อมผูกกับตะขอเกี่ยวที่ตัวถังรถ หากเกิดอุบัติเหตุจะช่วยป้องกันสัตว์เลี้ยงได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือผูกล่ามไว้แน่น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับผู้ที่อยู่ภายในรถและสัตว์เลี้ยง รวมถึงจัดสภาพแวดล้อมในรถให้สัตว์เลี้ยงเกิดความคุ้นเคย โดยเตรียมน้ำ ขนม และของเล่น เพื่อสร้างความสบายใจและลดความเครียดให้สัตว์เลี้ยง
ซึ่งช่วยลดการรบกวนสมาธิคนขับรถได้ อีกทั้งไม่เล่นกับสัตว์เลี้ยงในขณะขับรถ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมเสี่ยงในขณะขับรถทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง กรณีสัตว์เลี้ยงมีอาการเมารถหรือกระวนกระวายให้แวะพักหาจุดปลอดภัยออกมาเดินเล่น ขับถ่าย ทานอาหาร จะช่วยทำให้คลายความเครียดและวิตกกังวล ควบคุมไม่ให้ตื่นตกใจหรือกระโจนใส่ผู้ขับขี่ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ ท้ายนี้ หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุบัติภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์
“ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID 1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///